Tag: concentration

  • Flow State และ Productivity มันเชื่อมโยงกันอย่างไร

    1. What is Flow State?
    2. What is Productivity?
    3. How Flow and Productivity are Linked
    4. Benefits of Flow for Productivity
    5. Personal Growth Focus

    What is Flow State?

    สำหรับเรา ภาวะ flow (Flow State) คือสภาวะทางจิตใจที่เรามีสมาธิอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ทำอยู่ตรงนั้น อยู่กับปัจจุบันขณะ และรับรู้ว่าความคิด การกระทำ ความรู้สึก เป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งเวลานี้มันไม่ได้นาน ปกติเราพยายามทำรอบละ 25 นาที ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ตลอด 25 นาทีนั้น เมื่อมีอะไรแว่บเข้ามาก็จะโน้ตไว้ แล้วกลับมาที่ flow มันจะถูกรบกวนด้วยความคิดเรื่อยๆแหละ ซึ่งเราทุกคนฝึกได้นะ

    ส่วนความหมายในทางจิตวิทยา Flow ถูกริเริ่มและนำมาใช้ โดย Mihaly Csikszentmihalyi และ Jeanne Nakamura เค้าให้ความหมายไว้ประมาณว่า ภาวะทางจิตใจที่มีลักษณะจดจ่อกับงานที่ทำอยู่อย่างเต็มที่ ซึ่งเวลาจะดูผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นภาวะที่ประสิทธิภาพทางจิตใจและร่างกายของคุณพุ่งสูงขึ้น หรือเรียกว่า “peak performance” เป็นภาวะที่ผู้คนมีส่วนร่วมในกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งมากจนไม่มีอะไรสำคัญ (Ref: APA PsycInfo, Flow and the Foundations of Positive Psychology)

    แต่สำหรับเรา เวลาทำงานที่ท้าทายมากๆ ที่ต้องคิดวิเคราะห์เยอะๆ งานที่ไม่เคยทำมาก่อน มันไม่ได้ flow นะ มันตื่นเต้น ความคิดเราอยู่กับอนาคต ว่าต้องเจอ ต้องแก้ปัญหายังไง แล้วก็อยู่กับอดีต มีเครื่องมืออะไรในหัว งัดออกมา เอาออกมาใช้ตอนนี้

    ภาวะ flow เกิดขึ้นเมื่อความท้าทายของงานและทักษะของเรามีความพอดี ไม่ง่ายเกินไปจนเบื่อ และไม่ยากเกินไปจนเครียด ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    What is Productivity?

    สำหรับเรา Productivity คือการใช้เวลา พลังงาน และทรัพยากรให้มี output เป็นผลงานที่มีคุณภาพและมีความหมาย คำว่าทำน้อยได้มาก ต้องขยายความด้วยว่า มากที่เมื่อเทียบกับคุณภาพเดียวกัน และต้องมีสุขภาพจิตดีในระยะยาวด้วย

    How Flow and Productivity are Linked

    ความเชื่อมโยงระหว่าง flow กับ productivity มันเกี่ยวข้องกันมากๆเลย เรามองว่า productivity เป็น output หรือ side effect ของ flow เพราะเมื่อเราอยู่ใน flow เราจะทำงานได้เต็มศักยภาพโดยไม่มีแรงต้านทานใดๆ ไม่มีอะไรรบกวนเราได้ และสมาธิจะอยู่กับงานอย่างสมบูรณ์ ภาวะนี้ทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วขึ้น สิ่งที่ทำอยู่มันกระจ่างขึ้น เมื่อมีไอเดียบรรเจิดเกิดขึ้นมา แล้วต้องรีบโน้ตเพราะกลัวลืม ช่วยเพิ่ม productivity มากๆเลย คือ mental and physical performance มันไปด้วยกันได้ดี ทำให้รู้สึกมีพลัง มีแรง ได้รับการเติมเต็มจากงานที่ทำ

    จากการศึกษา 10 ปีโดย McKinsey พบว่า flow ทําให้ผู้บริหารมีความ productive มากขึ้นถึง 5 เท่า และ 6 เท่าในรายบุคคล และยังช่วยให้มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นถึง 3 เท่า (Ref:10 Ways to Induce a ‘Flow’ State and Unlock Painless Productivity – Fast Company)

    Benefits of Flow for Productivity

    ประโยชน์ของ flow ต่อการเพิ่ม productivity มันเยอะมาก เราจะเล่าแบบที่มีประสบการณ์ด้วยตัวเองนะ เราทำงานได้เร็วขึ้น เรียนรู้ได้ลึกมากขึ้น ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้าน้อยลง แก้ปัญหาได้ดีขึ้น ความสัมพันธ์ดีขึ้น มีไอเดียใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์แบบที่ไม่เคยคิดได้มาก่อน ทั้งที่มีประสบการณ์มา ยังสงสัยตัวเองว่าก่อนหน้านี้ทำไมคิดไม่ได้ 555 ทำให้เราชอบทำงานมาก แบบว่าตื่นมาดีใจ มีชีวิตต่ออีก 1 วัน จะได้ทำอะไรบ้างวันนี้ หยิบ planner มาดู ทุกวันมันเป็นของขวัญ มันอิ่มเอมกับสิ่งที่ทำ รู้สึกสุขภาพจิตดี การที่เรารู้สึกว่าเราควบคุมตัวเองได้ มันทำให้มีความเชื่อเชิงบวกในตัวเอง เพิ่มความภาคภูมิใจในตนเอง

    Flow is not a “one size fits all” process, ทางที่คนอื่นเค้าไปถึง flow ของเค้า เราเดินตามเค้า เราอาจจะไปไม่ถึง เราต้องหา ลอง และเรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าอะไรเหมาะ อย่างเรา เราได้ลองมาหลากหลายร่วมสิบปี สิ่งที่ match กับเรา พาเราไปอยู่ที่ flow ได้ก็คือการเขียน zentangle เราอินกับสิ่งนี้มาก deep immersion สุด หลายๆครั้งที่เราทำงานกับประเด็นภายในของตัวเอง เราก็จะลงมือเขียน ขีด ลากเส้น ร่วมกับการมีสติ รับรู้ ไม่ตัดสิน อนุญาตให้ตัวเองรู้สึกทุกอย่าง ไม่ผลักไส ไม่ทำอะไร แค่เห็น เท่านั้นเอง หลายๆอย่างมันก็ชัดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร

    Personal Growth Focus

    ในมุมมองของเรา การสร้างภาวะ flow ในชีวิตส่วนตัวและการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยกระบวนการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นอกจากสภาวะภายใน การเติบโตต้องการการลงมือทำสม่ำเสมอ กำหนดเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว แบ่ง sprint goal และทบทวนมันบ่อยๆ

    พอมีเป้าหมาย แล้วทำ to-do list แล้ว อยากให้นึกถึง not to-do list ด้วย ว่าถ้าจะทำ to-do list ให้สำเร็จ จะต้องไม่ทำอะไรบ้าง เช่น ไม่เล่น Tiktok ไม่ไถมือถือโดยไม่มีจุดประสงค์ นึกถึง not to-do เพื่อให้ to-do มันสำเร็จ

    เรารู้สึกว่าเราเป็น version ที่ดีขึ้นเมื่ออยู่ใน flow งานหรือสิ่งที่ทำมันเข้ากันได้กับ value และสามารถสร้างสรรค์อะไรได้หลายอย่างโดยไม่มีแรงต้าน ไม่มีแรงเสียดทาน มันไม่มี negative self-talk, doubts หรือความกลัวมากวนใจ เราสร้างผลงานได้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติมาก

    การเรียนรู้วิธีเข้าสู่และรักษาภาวะ flow คือทักษะที่ใช้ได้ตลอดชีวิตที่ช่วยเพิ่มทั้งความสำเร็จและความสุข สภาพแวดล้อมก็มีผลนะ ตอนที่เราไปอยู่หมู่บ้านพลัม ที่ปากช่อง เราเข้าสู่ flow ได้ง่ายมากๆ อาจจะเพราะสิ่งแวดล้อม และมีปัจจัยเอื้อให้เข้าไปอยู่ได้บ่อยๆ